ในวันที่ร่างกายที่เป็นของเรากลับไม่เป็นดั่งใจ จากดวงตาที่เคยมองเห็นแม้แต่ตัวอักษรที่เล็กที่สุดบนหน้าหนังสือกลับมืดสนิท หรือแม้แต่ขาที่เคยพาเราไปทุกที่ กลับกลายเป็นสิ่งที่เพิ่มความยากลำบากในการใช้ชีวิต เราจะทำอย่างไร หรือสงสัยไหมว่าพวกเขาเหล่านั้นใช้ชีวิตกันอย่างไร… แต่ในความลำบากของร่างกายนั้น หากมีใครสักคน หรือที่ไหนสักแห่งเห็นคุณค่าของพวกเขา ให้พวกเขาได้มีโอกาสใช้ความสามารถที่มีสร้างประโยชน์ หรือพัฒนาสิ่งๆต่างๆ ที่เกิดประโยชน์กับบุคคล หรือสถานที่นั้นๆ พวกเขาคงจะรู้สึกภาคภูมิใจ และมีความหวังในการใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่าต่อไป
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้เห็นความสำคัญกับสิ่งเหล่านี้ จึงได้มีโครงการจ้างงานผู้ที่มีภาวะทุพพลภาพ หรือผู้พิการ เพื่อส่งเสริมให้เกิดการจ้างงานที่มีคุณค่าอย่างเท่าเทียมและเป็นธรรม รวมไปถึงการสร้างสภาพแวดล้อม และสิ่งอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้พิการทั้งที่เป็นบุคลากรภายในและบุคลภายนอก และเพื่อเป็นการส่งต่อพลังบวกต่อผู้พิการที่ขาดความมั่นใจในคุณค่าหรือความสามารถของตนเอง
สำนักบริหารทรัพยากรมนุษย์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยจึงขอเป็นสื่อกลางในการถ่ายทอดประสบการณ์การทำงานของพนักงานมหาวิทยาลัยผู้ที่มีภาวะทุพพลภาพ ซึ่งสอดคล้องกับ “เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน” โดยในที่นี้จะกล่าวถึง เป้าหมายที่ 8 “การส่งเสริมการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่ต่อเนื่อง ครอบคลุม และยั่งยืน การจ้างงานเต็มที่และมีผลิตภาพ รวมทั้งการมีงานที่มีคุณค่าสำหรับทุกคน” ซึ่งหนึ่งในดัชนีชี้วัดความสำเร็จนี้ ได้แก่ บรรลุการจ้างงานเต็มที่มีอย่างมีผลิตภาพ และการมีงานที่มีคุณค่าสำหรับหญิงและชายทุกคน รวมถึงเยาวชนและ ผู้มีภาวะทุพพลภาพ
(ข้อมูลอ้างอิงจากสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ)
คุณวีกิจ คูหะมณี
(เจ้าหน้าที่สำนักงาน ประกันคุณภาพควบสารบรรณ คณะจิตวิทยา)
ผู้ที่มีระยะการมองเห็นแคบตั้งแต่อายุ 13 ปี ซึ่งถือเป็นผู้มีภาวะทุพพลภาพประเภทที่ 1 หรือความพิการทางการมองเห็นผู้ที่ได้ร่วมงานกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยมายาวนานถึง 8 ปี คุณวีกิจเล่าให้ฟังว่า การมองเห็นของเขาเปรียบเสมือนการมองผ่านหลอดดูดน้ำที่เล็กและแคบ มองเห็นได้เฉพาะสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเท่านั้น โดยก่อนหน้านี้คุณวีกิจได้มีโอกาสร่วมงานกับบริษัทเอกชนก่อนที่จะสมัครงานที่จุฬาฯ แต่เพราะเขาเลือกที่จะให้โอกาสตนเองได้ลองเปลี่ยนงาน เปลี่ยนสภาพแวดล้อม และสังคมใหม่ๆ เพื่อการเติบโตทางอาชีพ จึงทำให้เขามาถึงจุดนี้ คุณวีกิจยอมรับว่า ระยะการมองเห็นที่แคบนี้ทำให้เขาต้องใช้เวลาในการทำกิจกรรมต่างๆ รวมไปถึงใช้ระยะเวลาในการทำงานที่มากกว่าคนปกติ แต่นั่นไม่ใช่อุปสรรคที่แท้จริง หากแต่เป็นการปิดกั้นโอกาสของตนเองต่างหาก เพราะการเปลี่ยนแปลงไม่ใช่เรื่องแย่เสมอไป เราต้องลองเรียนรู้สิ่งใหม่ๆอยู่เสมอเฉกเช่นคนปกติทั่วไป มากไปกว่านั้นเขาโชคดีที่มีเพื่อนร่วมงานและหัวหน้างานที่เข้าใจในข้อจำกัดนี้ และยังเปิดโอกาสให้เขาได้พิสูจน์ตนเอง ได้ใช้ความสามารถอย่างเต็มที่ในการปฏิบัติงานในฐานะบุคลากรมหาวิทยาลัยคนหนึ่งอย่างเท่าเทียม
คุณวีกิจทิ้งท้ายฝากถึงผู้พิการท่านอื่นๆ ว่า โอกาสมีอยู่ทุกที่ หมั่นสำรวจหาสิ่งที่เราชอบ แล้วหมั่นฝึกฝนสิ่งนั้น จนเกิดเป็นความสามารถและความชำนาญ เมื่อนั้นเราย่อมเป็นที่ต้องการของตลาดแรงงานเช่นเดียวกัน ส่วนตัวเขาเอง แม้ในอนาคตอาจจะมีโอกาสที่จะมองไม่เห็น 100%เนื่องจากระยะการมองเห็นที่แคบลง แต่สิ่งหนึ่งที่เขายังคงจะทำเหมือนเดิม นั่นคือ การไม่หยุดที่จะเรียนรู้ และแสวงหาโอกาสใหม่ๆ ให้ตนเองอยู่เสมอ สุดท้ายนี้ “ไม่ว่าระยะการมองเห็นจะแคบเพียงใด แต่มุมมองและวิสัยทัศน์ต้องกว้างให้มากที่สุด”
คุณวิน วิเวกพรมราช
(พนักงานดูแลสถานที่ ประจำคณะรัฐศาสตร์)
สุดท้ายนี้ไม่ว่าท่านจะมีข้อจำกัดใด ไม่ว่าทั้งจากร่างกายหรือจิตใจ ขอเพียงแต่จงกล้าที่จะให้โอกาสให้ตนเอง ในการแสดงความสามารถที่ซ่อนอยู่ภายใต้ขีดจำกัดนั้น จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยขอเป็นพื้นที่ในการแสดงศักยภาพที่ไร้ซึ่งขีดจำกัด พร้อมต้อนรับทุกท่านเข้ามาเป็นส่วนหนึ่ง มาร่วมกันสร้างอนาคต และผลักดันให้จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ก้าวไปสู่ความเป็นนานาชาติ อย่างเต็มภาคภูมิ
อาคารที่เอื้อต่อคนพิการและทุกคน
เพราะผู้ที่มีภาวะทุพพลภาพหรือผู้พิการหวังที่จะสามารถเดินทางหรือการใช้ชีวิตในการทำงานได้อย่างสะดวก ซึ่งทางเดินสาธารณะหรืออาคารต่าง ๆ ส่วนใหญ่ในประเทศไทยยังไม่รองรับหรือเอื้อประโยชน์ ผู้ที่มีภาวะทุพพลภาพหรือผู้พิการจักต้องต้องพยายามดิ้นรนให้ตัวเองกระโดดขึ้นมามีคุณภาพชีวิตทัดเทียมกับคนอื่น จากงานวิจัย “หลักการออกแบบเพื่อ ทุกคน Universal Design ปรับเปลี่ยนเพื่อความยั่งยืน” โดย รองศาสตราจารย์ไตรรัตน์ จารุทัศน์ หัวหน้าภาควิชาเคหการ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้กล่าวถึง Universal Design หรือ การออกแบบเพื่อทุกคน ว่าเป็นแนวคิดหลักในการออกแบบสภาพแวดล้อม และสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อทุกคนทุก ๆ กลุ่มวัย ไม่ว่าจะเป็น ผู้สูงอายุ คนปกติ และผู้พิการ สร้างความเท่าเทียมกันในการเข้าถึงพื้นที่การให้บริการเพื่อส่งเสริมสุขภาพกายใจ
ทางจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้เห็นความสำคัญกับการจัดและดูแลสิ่งอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ที่มีภาวะทุพพลภาพหรือผู้พิการ ทั้งที่เป็นบุคลากรภายในไม่ว่าจะเป็นนิสิตหรือบุคลากร รวมทั้งบุคลภายนอก เพื่อส่งเสริมให้เกิดการใช้ชีวิตในมหาวิทยาลัยอย่างสะดวกสบาย โดยเริ่มต้นจากอาคารจามจุรี 5 ที่ได้รับการรองรับว่าเป็น อาคารที่เอื้อต่อคนพิการ พ.ศ. 2563 (รางวัลชมเชย) จากกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงมนุษย์
หอพักจุฬานิเวศน์ก่อนปรับปรุง
หอพักจุฬานิเวศน์หลังปรับปรุง
และการปรับปรุงหอพักจุฬานิเวศน์ เนื่องจากอาคารเก่าผิดกฎมายซึ่งอาคารที่สร้างมานานจะไม่มีระบบป้องกันอัคคีภัย และ ไม่มีบันไดหนีไฟ เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร
ทั้งนี้ทางจุฬาฯยังไม่หยุดการพัฒนาและปรับปรุงอาคารเพื่อเอื้อต่อการใช้ชีวิตของผู้ที่มีภาวะทุพพลภาพหรือผู้พิการเพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกและความใส่ใจในการเรียน, การทำงาน และการติดต่อกับจุฬาฯ ต่อไปในอนาคต
(ผังทางลาดและการเข้าถึงสำหรับผู้พิการ ณ ปัจจุบัน ในพื้นที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย)
มหาวิทยาลัยตระหนักถึงความสำคัญของบุคลากรในทุกภาคส่วน และส่งเสริมให้เกิดความหลากหลาย ความเสมอภาค การอยู่ร่วมกัน และได้รับการปฏิบัติตามหลักสิทธิมนุษยชนภายใต้การดูแลของมหาวิทยาลัย จึงได้กำหนดให้สำนักบริหารทรัพยากรมนุษย์เป็นผู้ดูแลในเรื่องต่างๆ เกี่ยวกับบุคลากรทุกกลุ่ม ดังนั้น หากมีความประสงค์จะแจ้งเรื่องราวต่างๆ สามารถติดต่อได้ที่ ฝ่ายสิทธิประโยชน์และการดูแลทรัพยากรมนุษย์ สำนักบริหารทรัพยากรมนุษย์ เบอร์โทร 02-218-0263
ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เรามีการผลักดันให้ผู้พิการสามารถมีคุณภาพชีวิตที่ดีได้เทียบเท่ากับบุคลากรคนอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นในด้านของนโยบาย สวัสดิการ รวมไปถึงความสามารถในการเข้าถึงพื้นที่ต่าง ๆ ภายในมหาวิทยาลัยของ เช่น อาคาร ทางเดิน หรือพื้นที่ใช้สอยต่าง ๆ เราจึงมีการพัฒนาโครงสร้าง และสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ทั่วทั้งมหาวิทยาลัยอยู่ตลอดเวลา เพื่อให้ผู้พิการสามารถใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้น โดยอ้างอิงตามระเบียบและมาตรฐานที่ประกาศไว้ในราชกิจจานุเบกษาเกี่ยวกับสิ่งอำนวยความสะดวกของผู้พิการ
โดยเราเรียกพื้นที่เหล่านี้ว่า Disabled Access ซึ่งจะมีอยู่ทั่วมหาวิทยาลัยประกอบไปด้วย ทางข้ามถนน 86 จุด ทางลาดขึ้นทางเท้า 41 จุด จุดต่อเนื่องทางเท้ากับทางข้ามถนน 146 จุด ทางลาดภายในอาคาร 100 แห่ง และห้องน้ำเพื่อผู้พิการภายในอาคารอีก 36 แห่ง
ตัวอย่างของสิ่งอำนวยความสะดวกที่ได้มาตรฐานภายในมหาวิทยาลัย
ลักษณะทางลาดที่ตรงตามมาตรฐานที่กำหนด
ทางลาดที่ไม่มีผนังกั้น ต้องยกขอบจากพื้น 10 เซนติเมตรขึ้นไป และต้องมีราวจับ หรือราวกันตก
ลักษณะของราวกันตก
ลักษณะห้องน้ำผู้พิการตามมาตรฐาน
1.ต้องมีพื้นที่ว่างเพื่อให้ Wheel Chair หมุนกลับตัวได้ โดยมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 1.5 เมตร ขึ้นไป
2.วัสดุปูพื้นต้องไม่ลื่น และพื้นในห้องน้ำต้องเสมอกับพื้นภายนอก
3.ข้างโถส้วมฝั่งที่ติดผนัง ต้องมีราวจับสำหรับพยุงตัว ทั้งแนวนอน และแนวดิ่ง (ราวทั้งสองอาจจะเป็นราวต่อเนื่องกันก็ได้)
3.1. ราวแนวนอน ต้องสูง 65-70 เซนติเมตร โดยปลายของราวต้องยื่นออกมาโดยวัดจากหน้าโถส้วมอีก 25-30 เซนติเมตร
3.2. ราวแนวดิ่ง ยื่นออกมาต่อจากส่วนปลายของราวแนวนอน โดยยาวขึ้นไปจากปลายแนวนอน 60 เซนติเมตร ขึ้นไป
4.ข้างโถส้วมฝั่งที่ไม่ติดผนัง มีราวจับแนวราบ หรือแนวดิ่งแบบพับเก็บได้ โดยเมื่อกางออกต้องล็อคได้ง่าย ยาว 55 เซนติเมตร ขึ้นไป ห่างจากขอบโถ 15-20 เซนติเมตร
5.มีระบบสัญญาณให้คนภายนอกแจ้งเหตุให้แก่ผู้พิการ และระบบให้ผู้พิการแจ้งเหตุเอง หรือเรียกคนช่วยได้
6.ประตูเป็นบานเลื่อน หรือบานเปิด ต้องเปิดค้าง 90 องศา มีราวจับแนวนอน มีป้ายผู้พิการ
นอกจากสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับผู้พิการที่มีอยู่ทั่วมหาวิทยาลัยแล้ว Sidewalk Continuous level หรือ ระดับทางเท้า ในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยส่วนใหญ่ ยังถูกประเมินและจัดไว้ในระดับปานกลาง – สูงสุด ซึ่งหมายความว่าเป็นทางเท้าที่สามารถใช้งานได้อย่างสะดวก และมีสิ่งกีดขวางน้อย ลดอุปสรรคในการใช้งานแก่ทั้งผู้พิการ และบุคคลทั่วไป
254 ถนนพญาไท แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330
โทร : 02-218-0151
อีเมล์ : hr@chula.ac.th
เว็บไซต์ : https://www.hrm.chula.ac.th
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีให้กับท่าน และเพื่อพัฒนาคุณภาพการให้บริการเว็บไซต์ที่ตรงต่อความต้องการของท่านมากยิ่งขึ้น ท่านสามารถทราบรายละเอียดเกี่ยวกับคุกกี้ได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และท่านสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า
เราจะใช้คุกกี้เมื่อท่านได้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ โดยคุกกี้ที่จำเป็นต่อการทำงานของเว็บไซต์ ท่านไม่สามารถปิดการใช้งานของคุกกี้ประเภทนี้ผ่านระบบของเว็บไซต์ได้ สำหรับคุกกี้เพื่อการวิเคราะห์ เก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ เพื่อพัฒนาเว็บไซต์และเพิ่มประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์
ท่านสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น
คุกกี้ที่จำเป็นคือสิ่งที่สำคัญสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ ทำให้คุณสามารถใช้งานและเรียกดูเว็บไซต์ได้ตามปกติ คุณไม่สามารถปิดการใช้งานคุกกี้เหล่านี้ในระบบของเว็บไซต์ของเราได้
รายละเอียดคุกกี้
คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน เพื่อให้เราสามารถวัดผล ประเมิน ปรับปรุง และพัฒนาเว็บไซต์ของเรา เพื่อเพิ่มประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของท่าน